มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น (Mahachulalongkorn rajavidyalay University, Khon Kaen Campus) ตั้งอยู่เลขที่ ๓๐ หมู่ ๑ บ้านโคกสี ตำบลโคกสี อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น มีพัฒนาการมาโดยลำดับในช่วง ๓ ทศวรรษที่ผ่านมา ดังนี้

ในการก่อตั้งวิทยาเขตขอนแก่น ได้อาศัยระเบียบมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ว่าด้วยวิทยาเขต และตามคำสั่งเจ้าสำนักเรียนวิเวกธรรมประสิทธิ์วิทยา พระราชสารเวที (เหล่ว สุมโน) เจ้าอาวาสวัดธาตุ (พระอารามหลวง) และรองเจ้าคณะภาค ๙ ในขณะนั้น มีดำริให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยเพื่อเป็นสถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาสำหรับพระภิกษุสามเณรในเขตปกครองคณะสงฆ์ภาค ๙ ดังคำปรารภในการจัดตั้งวิทยาเขตขอนแก่น ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร ป.ธ.๘, อัครมหาบัณฑิต) นายกสภามหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และพระเถรานุเถระทุกระดับในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดขอนแก่น ดังหนังสือขอเปิดมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น อนุมัติให้จัดตั้งวิทยาเขตขอนแก่น เมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ตามหนังสือ คำสั่งมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ที่ ๘/๒๕๒๙ ลงวันที่ ๑๒ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๒๘ ลงนามโดยพระมหานคร เขมปาลี เลขาธิการมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย มีกำหนดการพิธีเปิดป้ายวิทยาเขตขอนแก่น ใช้ชื่อเป็นทางการว่า “มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์ วิทยาเขตขอนแก่น” ได้มีเจ้าคณะพระสังฆาธิการที่บริจาคอุปถัมภ์การก่อตั้งและบำรุงวิทยาเขตขอนแก่น, มีผู้บริจาควัสดุครุภัณฑ์ประจำวิทยาเขตขอนแก่น, ผู้บริจาคซื้อเครื่องเสียงและจัดพิมพ์หนังสืออนุสรณ์พิธีเปิดป้ายวิทยาเขตขอนแก่น ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร) เมตตามาเป็นประธานเปิดป้ายมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย วิทยาเขตขอนแก่น เมื่อวันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๓๐ ณ วัดธาตุ พระอารามหลวงอีกด้วย

มหาวิทยาลัยได้มีการแต่งตั้งกรรมการสภาวิทยาเขตขอนแก่น แต่งตั้งพระราชสารเวที เป็นผู้รักษาการตำแหน่งรองอธิการบดี และพระมหาโสวิทย์ โกวิโท เป็นผู้รักษาการตำแหน่งคณบดีคณะพุทธศาสตร์, พร้อมทั้งคณะผู้บริหาร-อาจารย์ประจำและเจ้าหน้าที่อาจารย์บรรยายพิเศษ ได้ดำเนินการเปิดภาคการศึกษาครั้งแรกวันที่ ๑๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ ในคณะพุทธศาสตร์ สาขาวิชาศาสนา) มีนิสิตรุ่นแรก จำนวน ๒๑ รูป เป็นปฐมฤกษ์ และนิสิตชั้นปีที่ ๑, ๒ ปีการศึกษา ๒๕๓๐) เข้ามาศึกษาเป็นนิสิตตามลำดับจนถึงปัจจุบัน


สมเด็จพระพุฒาจารย์ (อาจ อาสภมหาเถร)

              หากคุณพูดถึง MOU หรือ Memorandum of Understanding นั้น หมายถึงข้อตกลงความร่วมมือระหว่างองค์กรต่างๆ รวมถึงสถาบันการศึกษาเช่นกันทางเราเลยคิดขึ้นมาว่า ถ้าจะพัฒนาใครสักคนหรือพัฒนาองค์ต้องมีขยายโอกาสทางการศึกษาให้มากขึ้นและต้องมีจุดประสงค์ตรงกัน

MOU ในวงการศึกษา คืออะไร?

 MOU ในวงการศึกษาเป็นข้อตกลงที่มีลายลักษณ์อักษรระหว่างสองสถาบันหรือมากกว่านั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เช่น

  • การแลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากร: เพื่อให้ทั้งสองสถาบันเรียนรู้วัฒนธรรมและวิธีการทำงานที่แตกต่างกัน
  • การวิจัยร่วมกัน: เพื่อสร้างองค์ความรู้ใหม่และพัฒนาหลักสูตร
  • การจัดกิจกรรมร่วมกัน: เช่น สัมมนา การอบรม หรือโครงการต่างๆ
  • การใช้ทรัพยากรร่วมกัน: เช่น ห้องสมุด อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ หรือห้องปฏิบัติการ

ประโยชน์ของ MOU ในวงการศึกษา

  • ขยายโอกาสทางการศึกษา: นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากหลากหลายมุมมองและวัฒนธรรม
  • เพิ่มพูนความรู้และทักษะ: นักศึกษาและบุคลากรจะได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน
  • สร้างเครือข่ายความร่วมมือ: สถาบันการศึกษาจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับสถาบันอื่น
  • ยกระดับคุณภาพการศึกษา: การร่วมมือกันจะช่วยพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้ดีขึ้น

MOU คืออะไร และสำคัญอย่างไรในวงการศึกษา?

MOU ย่อมาจาก Memorandum of Understanding ซึ่งแปลว่า บันทึกข้อตกลงความเข้าใจ เป็นเอกสารที่ระบุถึงความตกลงร่วมกันระหว่างสองฝ่ายขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นองค์กรหรือสถาบันต่างๆ รวมถึงสถาบันการศึกษา

ในวงการศึกษา MOU มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นเครื่องมือในการสร้างความร่วมมือระหว่างสถาบันต่างๆ เพื่อ:

  • แลกเปลี่ยนนักศึกษาและบุคลากร: เพื่อเรียนรู้วัฒนธรรมและระบบการศึกษาที่แตกต่าง
  • ร่วมกันวิจัย: สร้างองค์ความรู้ใหม่และพัฒนานวัตกรรมทางการศึกษา
  • จัดกิจกรรมร่วมกัน: เช่น สัมมนา การอบรม หรือโครงการต่างๆ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์
  • ใช้ทรัพยากรร่วมกัน: เช่น ห้องสมุด อุปกรณ์วิทยาศาสตร์ หรือห้องปฏิบัติการ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดจากทรัพยากรที่มีอยู่

ประโยชน์ของ MOU ในวงการศึกษา

  • ขยายโอกาสทางการศึกษา: นักศึกษาจะได้เรียนรู้จากหลากหลายมุมมองและวัฒนธรรมและพัฒนาปัญญาและคุณธรรม
  • เพิ่มพูนความรู้และทักษะ: ให้กับนักศึกษาและบุคลากรจะได้พัฒนาทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน
  • สร้างเครือข่ายความร่วมมือ: สถาบันการศึกษาจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์กับสถาบันอื่น
  • ยกระดับคุณภาพการศึกษา: การร่วมมือกันจะช่วยให้ทั้งสองสถาบันพัฒนาคุณภาพการศึกษาได้ดีขึ้น

ตัวอย่างของ MOU ในวงการศึกษา

  • MOU ระหว่างมหาวิทยาลัยในประเทศไทยกับต่างประเทศ: เพื่อแลกเปลี่ยนนักศึกษาและอาจารย์ ร่วมวิจัย และพัฒนาหลักสูตร
  • MOU ระหว่างมหาวิทยาลัยกับภาคเอกชน: เพื่อพัฒนานักศึกษาให้มีทักษะตรงตามความต้องการของตลาดแรงงาน และร่วมกันทำวิจัยเพื่อแก้ปัญหาในภาคอุตสาหกรรม
  •         MOU ระหว่างโรงเรียนกับมหาวิทยาลัย: เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนสัมผัสบรรยากาศการเรียนในระดับอุดมศึกษาและเตรียมความพร้อมในการศึกษาต่อ

 

 

ปรัชญามหาวิทยาลัย

ปัญญาเป็นแสงสว่างในโลก

วิสัยทัศน์

ศูนย์กลางพุทธนวัตกรรมเพื่อพัฒนาปัญญาและคุณธรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ปณิธานของมหาวิทยาลัย

เป็นสถานศึกษาพระไตรปิฎกและวิชาชั้นสูงสาหรับพระภิกษุสามเณรและคฤหัสถ์

พันธกิจของมหาวิทยาลัย

ผลิตบัณฑิต

วิจัยและพัฒนา

ส่งเสริมพระพุทธศาสนาและบริการวิชาการแก่สังคม

ทำนบำรุงศิลปะวัฒนธรรม